ประวัติศาสตร์เล่มละบาท?
|
"แต่ก่อนเล่มนึงมันเคยขึ้นถึง 32 หน้าด้วยซ้ำไป ยุคที่ว่ามันกระดาษถูกนะ แล้วก็ลดเหลือ 24 พอ 24 ก็แพงอีก ก็เลยเหลือยกเดียว 16 หน้า พอ 16 หน้ายุคหลังบาทเดียวก็ขายไม่ได้แล้ว แต่จะลดกระดาษก็อีกลดไม่ได้เพราะหน้านึงมันน้อยมากทีนี้ก็เลยรวมเป็น 3 เรื่องขาย 5 บาท..." วัชรินทร์ เรียม อดีตนักเขียนการ์ตูนเล่มละบาทฝีมือดีอีกคนกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของการ์ตูนเล่มละบาท "เล่มละบาทขายกันมา 30 ปีได้นะ ส่วน 5 บาทนี่ประมาณซัก 7 ปีได้ แล้วก็มาจนถึงวันนี้..." เล่มละ 5 บาทนี่มันมีผสมกันระหว่างนักเขียนรุ่นเก่าที่มีไม่กี่คนแล้วแหละ เพราะว่ามันจะมีเด็กใหม่มาส่วนใหญ่ คนรุ่นเก่าเขียนน้อยลง เพราะค่าเขียนมันถูก ที่ขายเล่มละ 5 บาทนี้มันไม่ได้เหมือนเล่มละบาทนะ เล่มละบาทนี่นักเขียนจะอยู่ได้เลย ค่าเขียนจะ 1,000 บาทอะไรอย่างนี้ สมัยล่าสุดก่อนที่ผมจะเลิกเขียนค่าแรงก็ตกเรื่องละ 1,600 เป็นราคาที่สูงมากนะ ซึ่งถ้ามารวม 5 บาท ราคาอย่างนี้มันก็จะขายไม่ได้อีกเพราะว่าต้นทุนจะสูง ต้องเอาเด็กๆ หน้าใหม่ ราคาก็น่าตกใจมากไม่น่าเขียน ได้ประมาณ 400 - 500 บาทต่อเรื่องมั้ง ผมไม่ค่อยแน่ใจ" เมื่อเงื่อนไขทางด้านราคาเปลี่ยนไปเรื่องของคุณภาพก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน "แต่ก่อนการ์ตูนเล่มละบาทมันจะตัวใครตัวมัน เรื่องนึงก็คนเดียว จะวัดฝีมือไปเลย นักเขียนก็ค่อนข้างจะมีคุณภาพ พอหลังๆ เขาสามารถเอาไปผสมได้ มันทำให้แฟนๆ ผิดหวังเพราะว่าจะเอาของเก่ามาเวียนพิมพ์ซ้ำ แล้วก็เปลี่ยนปก เพื่อลดต้นทุน" "ความจริงก็คุยกับเพื่อนๆ ก็เสียดายนะที่ว่าเราน่าจะทำกันให้ดีๆ ผมเลิกมาหลายปีแล้ว หลายคนก็เลิก นักเขียนรุ่นเก่าๆ ก็จะเขยิบไปทำงานอย่างอื่น อย่างคุณบุญถิ่น ทวยแก้ว ผู้กำกับหนังฮวงจุ้ยนั่นก็นักเขียนการ์ตูนเล่มละบาท พอเขียนการ์ตูนสักพัก เขาก็เขยิบไปทำโฆษณา สตอรี่บอร์ด สักพักก็ไปสร้างฉาก ทีนี้ก็กำกับเลย ถือว่าเป็นนักเขียนการ์ตูนรุ่นพี่ที่เขาได้ดี" ***** สำหรับปัจจุบันนั้นการผลิตการ์ตูน 3 เรื่อง 5 บาทมีสำนักพิมพ์เพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้นที่ทำอยู่ ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็คือ เพื่อนแก้ว,ชายสยาม,ธนสาส์น,การ์ตูนบันเทิง,เสริมมิตร,การ์ตูนไทย,ประชาช่าง ซึ่งผลกำไรของมันนั้นก็ไม่ได้สูงมากมายเท่าใดนักหากแต่อยู่ในสภาพที่เรียกว่าพออยู่ได้ โดยสายส่งหนังสือเจ้าหนึ่งบอกว่าบริษัทของตนเองส่งหนังสือให้กับสำนักพิมพ์การ์ตูน 3 เรื่อง 5 บาทนี้สองเจ้าด้วยกัน ซึ่งถัวเฉลี่ยแล้วจะมีหนังสือการ์ตูน 3 เรื่อง 5 บาทนี้ส่งไปตามแผงหนังสือเดือนละ 80,000 กว่าเล่มโดยมียอดขายอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ "ตอนนี้ก็ยังเขียนอยู่ครับแต่ว่าเขียนแต่ปกเพราะมีทีมงานอยู่ เขียนปกก็ได้ 300 - 500 บาท แล้วแต่โรงพิมพ์ว่าจะให้มากให้น้อย" ชาย ชาตรี (สมศักดิ์ เจสกุล) นักเขียนการ์ตูนเล่มละบาทรุ่นเก๋าอีกคนให้ข้อมูล "ปกนึงนี่แล้วแต่โรงพิมพ์เขาจะพิมพ์ บางที่ก็พิมพ์ 5,000 - 6,000 หรือถ้าบางที่ถ้าขายดีมันก็หมื่นขึ้นไปเหมือนกัน" แม้จะถูกมองว่าเป็นการ์ตูนที่ไร้เกรด ไม่มีการพัฒนาซึ่งลายเส้นหรือว่าเนื้อหาทว่าเมื่อถามว่าอนาคตการ์ตูนเหล่านี้จะมีอยู่ต่อไปหรือไม่นักเขียนรุ่นเก๋าบอกว่าน่าจะยังไปได้ "ยังไปได้ ยังมีคนอ่านตลอด ระดับกลางๆ ระดับล่างหน่อย พวกแม่ค้ากับสาวโรงงานเป็นลูกค้าประจำ อย่างเด็กโตหน่อยแบบลูกผมเนี่ยเรียนมัธยมเขาก็จะไม่อ่านละ จะซื้อแต่การ์ตูนญี่ปุ่นมาเก็บไว้ ผมทำเขาก็ไม่อ่าน เหลือบๆ มองเฉยๆ ถามว่าเขียนไร แค่นี้ไม่สนใจอะไรเลย ก็ปล่อยเขา" "คือมันเป็นเรื่องของกระแสด้วย ตอนนี้คนถือหนังสือญี่ปุ่นดูเท่ห์ดี ถ้าถือการ์ตูนไทยเล่มละบาท โห เชยตาย ซึ่งเมื่อก่อนมันก็ไม่ถือว่าเชยนะ มันเคยบูมเมื่อผมอายุซัก 30 กว่า ประมาณ 15-16 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเล่มละบาทขายดีมาก โรงพิมพ์รวยเลย รายได้แบบช่วยเหลือกัน เราอยู่ได้ อะลุ่มอะหล่วยกัน เขาก็อยู่ได้ ผมดำเนินชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ด้วยการ์ตูนนี่ก็อะลุ่มอะหล่วยกันไป ได้บ้างไม่ได้บ้าง นิดๆ หน่อยๆ ก็เอา คิดว่าจะทำอาชีพนี้ไม่เปลี่ยนแล้วแหละ เพราะว่ามันไปไหนไม่ได้แล้ว อายุมาก แล้วเราก็รักมาก" ด้าน "แดน สุดสาคร" (สนิท สุดสาคร)นักเขียนชื่อดังอีกคนหนึ่งที่ยังคลุกคลีอยู่กับการ์ตูนไทยราคาถูกเล่าให้ฟังว่า..." "ผมเขียนมาร่วม 30 ปีแล้ว ปัจจุบันนี้ยังเขียนอยู่ให้หลายๆ ที่ แล้วแต่เขาจ้าง ส่วนแนวของเรื่องก็คือเขียนทั่วไปแหละครับ หลายๆ แนว แต่ที่จะขายได้ก็คือเรื่องผี เรื่องชีวิต ยังขายได้อยู่" ต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่านอกจากจะไร้เกรดไม่มีระดับแล้วการ์ตูนไทยราคาถูกชนิดนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องลามกนั้น เรื่องนี้แดนขอเถียงว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน "ผมขอเถียงเลย ผมทำงานมานาน บางทีหน้าปกใส่ยกทรงแล้วเขียนว่าอึ๋มหน่อยใช่มะ เขาก็ตีว่าโป๊แล้ว การ์ตูนญี่ปุ่นหน้าปกสวยๆ ข้างในมีสอดแทรก มีฉาก...หมดเลยไม่มีคนว่า การ์ตูนไทยอย่างเก่งก็แค่กอดๆ หน้าชนกัน แล้วก็บางทีก็ถอดเสื้อก็ไม่ให้เห็น แล้วก็มีบางคนไปตีความว่าการ์ตูนเล่มละบาทเป็นการ์ตูนโป๊ เรื่องนี้นี่ผมไปพูดที่งานไหนผมเถียงตลอดและเอาตัวอย่างมาให้ดูด้วย" "ตอนนี้มันไม่ค่อยมีคนเขียนแล้วครับ..." แดนบอกเหมือนกับปลงๆ "คนเขียนตอนนี้จะเน้นไปทางญี่ปุ่นมากกว่า คือเป็นนักเขียนการ์ตูนไทยนี่แหละแต่สไตล์ญี่ปุ่น ไทยแท้อย่างพวกผมเนี่ยเหลือประมาณ 10 กว่าคนมั้ง แต่ว่ากระจัดกระจายกันอยู่ แล้วราคาของพวกเราก็ถูกด้วย ไทยแท้ๆ นี่ถูกมาก เราเขียนตามใบสั่งของนายทุน เรื่องนึงประมาณ 600 บาท 16 หน้า" "ตอนนี้ผมอายุ 48 เดือนนึงเขียนประมาณ 4 -5 เรื่อง รายได้ไม่ดีเหมือนนักเขียนแนวญี่ปุ่นหรอก คือมันเป็นอย่างไรไม่รู้นะ รู้แต่ว่าเดี๋ยวนี้อะไรๆ มันก็ออกสไตล์ญี่ปุ่นหมด เขียนเรื่องไทยก็จริงแต่ว่ามันเป็นสไตล์เป็นญี่ปุ่นหมด หน้าตาญี่ปุ่นไปหมดเลย "ตอนชาละวัน ไกรทอง สไตล์ก็เป็นญี่ปุ่น ขนาดหนุมานยังออกญี่ปุ่นเลย" |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น